แหวนและวันเกิด

แหวน ที่เราสามารถเลือกสวมใส่กันได้ในปัจจุบันนั้นจะมีมากมายหลายแบบ ซึ่งลักษณะรูปทรงของแหวนก็ขึ้นอยู่ว่าเราจะชอบแบบไหน แต่จริงๆ ก็มีวิธีดูด้วยว่า คนที่เกิดวันใด ควรจะเลือกลักษณะของแหวนแบบไหนเพื่อช่วยเสริมสร้างดวงให้เกิดผลมากที่สุด

วันอาทิตย์ คนที่เกิดในวันอาทิตย์นั้นจะเหมาะกับแหวนที่มีลักษณะรูปร่างเกลี้ยงๆ ไม่ใช่แค่แหวนเท่านั้น เครื่องประดับประเภทอื่นก็ควรจะเลือกแบบที่มีเกลี้ยงๆ อย่างเช่น เครื่องประดับประเภท ทองคำ ทองคำขาว หรือ หินอย่างหยกที่มีความเกลี้ยงใสและสวยงาม จะช่วยเสริมดวงคนที่เกิดวันนี้ได้ดี

วันจันทร์ คนที่เกิดวันแรกของสัปดาห์จะเหมาะกับแหวนที่มีลักษณะที่บางๆ ไม่หนาเกินไป จะช่วยทำให้คุณเป็นคนที่อ่อนน้อม ไปที่ไหนใครก็รัก ช่วยเสริมดวงคนที่เกิดวันจันทร์ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย


วันอังคาร สำหรับท่านที่เกิดวันอังคาร เวลาจะเลือกซื้อแหวนเพื่อมาเสริมดวงนั้นควรที่จะเลือกเน้นที่หัวของแหวนเป็นหลัก โดยท่านจะเหมาะกับแหวนที่มีหัวแหวนใหญ่ๆ และสามารถมองเห็นได้ชัด จะช่วยเสริมสร้างบารมีให้แก่ท่าน และ ช่วยเสริมในเรื่อง โชคลาภ และ ดวงได้เป็นอย่างดี

วันพุธ ควรจะเลือกแหวนให้พอดีกับนิ้วของท่านไม่ให้หลวมหรือใหญ่เกินไป หรือ เล็ก/คับเกินไป และคนที่เกิดวันพุธก็เหมาะกับเครื่องประดับที่เน้นไปทางสีเขียวอีกด้วย

วันพฤหัสบดี ให้เลือกแหวนที่มีขนาดใหญ่ หนา เพราะจะช่วยเสริมสร้างบารมีให้แก่ท่าน มีคนเชื่อฟัง และเน้นโทนสีของเครื่องประดับไปที่สีเหลือง หรือ สีทองก็ได้ สามารถช่วยในเรื่องเสริมดวงให้แก่ท่านได้อีกด้วย

วันศุกร์ ท่านที่เกิดวันศุกร์นั้นจะเหมาะกับแหวนที่มีโทนออกไปทางสีฟ้า หรือ สีน้ำเงิน และมีรูปลักษณ์ หรือ ลักษณะของแหวนที่เป็นแบบคลื่นๆ ส่วนข้อห้ามของคนที่เกิดวันศุกร์ นั้นไม่ควรใส่แหวนหลายวงในนิ้วเดียวกัน เพราะอาจจะทำให้คุณเกิดโชคไม่ดีขึ้นมาได้



วันเสาร์ สีที่เหมาะกับคนที่เกิดวันเสาร์นั้นจะเป็นสีที่มีโทนออกไปทางสีม่วง และควรมีขนาดใหญ่นอกจากจะช่วยเรื่องเสริมดวงแล้ว ยังช่วยเพิ่มบารมีให้แก่คนที่สวมใส่แหวนได้อีกด้วย ดังนั้นใครที่ทำงานที่เป็นเจ้าคนนายคน แล้วเกิดวันเสาร์ ก็อยากให้หาแหวนที่มีสีม่วงมาสวมใส่

Share on Google Plus

About Siamratanapisut

This is a short description in the author block about the author. You edit it by entering text in the "Biographical Info" field in the user admin panel.
    Blogger Comment
    Facebook Comment

0 ความคิดเห็น :

Post a Comment